ใบความรู้ที่ 1 เรื่องพระสุริโยทัยขาดคอช้าง
พระสุริโยทัย
พระสุริโยทัย(ไท) หรือสมเด็จพระศรีสุริโยทัย
วีรสตรีไทยสมัยอยุธยา เป็นอัครมเหสีในสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ พระมหากษัตริย์องค์ที่
๑๕ ของกรุงศรีอยุธยาแห่งราชวงศ์สุพรรณภูมิ(ครองราชย์ปี พ.ศ.๒๐๙๑-๒๑๑๑)
สมเด็จพระสุริโยทัย ตามพงศาวดารหลวงประเสริฐฯ
กล่าวเพียงแค่เป็นอัครมเหสีผู้เสียสละพระชนม์ชีพเพื่อปกป้องพระราชสวามีในสงคราม
พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ ในปีพ.ศ.๒๐๙๑ พงศาวดารบางฉบับ กล่าวว่าพระสุริโยทัย
เป็นเจ้านายเชื้อสายราชวงศ์พระร่วงเจ้ากรุงสุโขทัย
โดยมิได้กล่าวรายละเอียดใดมากกว่านี้
ในส่วนของพระนามนั้น
ในเว็บไซด์ Suriyothai ของภาพยนต์ “สุริโยไท” ได้อธิบายในส่วนของหมายเหตุ
ดังนี้
…จากเดิม “สุริโยทัย” เปลี่ยนเป็น
“สุริโยไท̋
ใช้ทั้งชื่อตัวละคร และชื่อภาพยนตร์
ทั้งนี้เพื่อความเหมาะสมของภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์
และเป็นคำไทยโบราณที่ใช้ในยุคสมัยนั้น…
ส่วนคำว่า ̏สุริโยทัย”
พิเศษ เจียจันทร์พงษ์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ กรมศิลปากร
และที่ปรึกษาภาพยนต์เรื่องสุริโยไท ได้กล่าวไว้ในวารสาร ศิลปวัฒนธรรม ฉบับที่ ๒๖๒
วันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๔๔ ไว้ว่า
…ดังนั้น ถ้าหากพิจารณว่า พระนาม “สุริโยทัย̋
ซึ่งแปลว่า พระอาทิตย์ขึ้น ดูละม้ายคล้ายกับคำว่าสุโขทัย ก็อาจสมมุติให้เป็นว่า
พระนางน่าจะมาจากราชวงศ์สุโขทัยก็เป็นไปได้…
หากสืบค้นคำว่า
สุริโยทัย จะพบว่าเป็นคำสระสนธิของคำว่า
สุริยะ+อุทัย = สุริโยทัย (พระนามแปลว่าพระอาทิตย์ขึ้น
ซึ่งละม้ายกับคำว่าสุโขทัย) ซึ่งแล้วแต่ความนิยมของผู้ใช้
เพราะความหมายเป็นที่เข้าใจถึงบุคคลเดียวกัน
พระราชโอรสและพระราชธิดา
สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ
กับสมเด็จพระสุริโยทัย มีพระราชโอรส พระราชธิดา ๕ พระองค์
ซึ่งน่าจะเรียงลำดับดังนี้
๑.พระราเมศวร(พระราชโอรสองค์โต)
ถูกจับเป็นองค์ประกันแก่พม่า และสิ้นพระชนม์ระหว่างเสด็จไปหงสาวดี
๒.พระมหินทร์(พระราชโอรสองค์รอง)
ต่อมาได้ขึ้นครองราชย์เป็น
สมเด็จพระมหินทราธิราชกษัตริย์องค์สุดท้ายก่อนเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ ๑ ในพ.ศ.
๒๑๑๒
๓.พระสวัสดิราช(พระราชธิดา)
ต่อมาได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น พระวิสุทธิกษัตรี(ย์)
อัครมเหสีในสมเด็จพระมหาธรรมราชา และเป็นพระราชมารดาของ พระสุพรรณกัลยา
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระเอกาทศรถ
๔.พระบรมดิลก(พระราชธิดา)
สิ้นพระชนม์พร้อมพระราชมารดาในสงครามคราวเสียสมเด็จพระสุริโยทัย
๕.พระเทพกษัตรี(ย์) หรือพระนางมโนรา(๑)
(พระราชธิดา) ภายหลังถูกส่งตัวถวายแด่พระไชยเชษฐาธิราช แห่งอาณาจักรล้านช้าง
พระวีรกรรม
ภาพประกอบโคลงพระราชพงศาวดาร
แผ่นดินพระมหาจักรพรรดิ ตอนพระสุริโยทัยขาดคอช้าง ภาพฝีพระหัตถ์
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์
เมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๐๙๒ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิทรงตัดสินพระทัยยกทัพออกนอกพระนครเพื่อเป็นการบำรุงขวัญทหารและทอดพระเนตรจำนวนข้าศึกสมเด็จพระสุริโยทัยพร้อมกับพระราชโอรส
พระราชธิดา พระองค์ได้เสด็จติดตามไปด้วย โดยพระองค์ทรงแต่งกายอย่างมหาอุปราช
ทรงเครื่องสำหรับราชณรงค์ เสด็จทรงช้าง ̏ พลายทรงสุริยกษัตริย์̋
สูงหกศอกเป็นพระคชาธาร ครั้นยกกองทัพออกไปบริเวณทุ่งภูเขาทอง
กองทัพอยุธยาปะทะกับกองทัพพระเจ้าแปร ซึ่งเป็นทัพหน้าของพม่า
ช้างทรงของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิเกิดเสียทีหันหลังหนีจากข้าศึก
พระเจ้าแปรก็ทรงขับช้างไล่ตามมาอย่างกระชั้นชิด สมเด็จพระสุริโยทัยทอดพระเนตรเห็นพระราชสวามีกำลังอยู่ในอันตรายจึงรีบขับช้างเข้าขวางพระเจ้าแปร
ทำให้ทรงไม่สามารถติดตามต่อไปได้ พระเจ้าแปรจึงทำยุทธหัตถีกับสมเด็จพระสุริโยทัย
เนื่องจากสมเด็จพระสุริโยทัยอยู่ในลักษณะเสียเปรียบ
ช้างพระเจ้าแปรได้เสยช้างสมเด็จพระสุริโยทัย จนเท้าหน้าทั้งสองลอยพ้นพื้นดิน แล้วพระเจ้าแปรจึงฟันสมเด็จพระสุริโยทัยจากพระพาหาขาดถึงกลางพระองค์พระองค์เสด็จสวรรคตเช่นเดียวกับพระราชธิดา
คือ พระบรมดิลก
ดังพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา
ฉบับหลวงประเสริฐฯ(๒)บันทึกว่า
…เมื่อสมเดจพระมหาจักรพรรดิเจ้าเสดจออกไปรบศึกหงสานั้น
สมเดจพระอรรคมเหษี
แลสมเดจพระเจ้าลูกเธอพระราชบุตรีนั้นได้รบด้วย เสด็จทรงช้างออกไปโดยเสดจด้วย
แลเมิ่อได้รบศึกหงษานั้น ทับหน้าแตกมาปะทับหลวงเป็นโกลาหลใหญ่ แลสมเดจพระอรรคมเหษี
แลสมเดจพระเจ้าลูกเธอพระราชบุตรีนั้นได้รบด้วยศึกถึงสิ้นพระชนมกับคอช้างนั้น…
อนุสรณ์สถาน
เจดีย์สมเด็จพระศรีสุริโยทัย
เจดีย์สมเด็จพระศรีสุริโยทัย
๑.พระเจดีย์ศรีสุริโยทัย ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ได้มีการสอบสวนหาตำแหน่งสถานที่ต่างๆ
ที่กล่าวถึงในพระราชพงศาวดารเพื่อเรียบเรียงเป็นหนังสือประชุมพงศาวดารขึ้นทูลเกล้าฯถวาย
จึงเป็นเหตุให้ทราบตำแหน่งของวัดสบสวรรค์
ซึ่งยังคงพบเจดีย์แบบเพิ่มมุมไม้สิบสองสูงใหญ่ปรากฏตามที่ตั้งในปัจจุบันนี้
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงขนานนามเรียกชื่อเจดีย์ว่า “เจดีย์พระศรีสุริโยทัย”
(๓) ในปีพ.ศ.๒๕๓๓ รัฐบาลได้มอบให้กรมศิลปากร
ดำเนิกนารบูรณะซ่อมแซมเสริมรูปทรงพระเจดีย์ที่ชำรุดให้อยู่ในสภาพเดิม และจากการบูรณะกรมศิลปากรได้พบวัตถุโบราณ
เช่น พระพุทธรูปผลึกแก้วสีขาวปางมารวิชัย พระเจดีย์จำลอง ผอบทองคำ บรรจุพระธาตุ
เป็นต้นปัจจุบันเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา
ในส่วนนี้ สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ซึ่งทรงตรวจสอบสถานที่ใน พระราชพงศาวดาร และได้อธิบายไว้ใน “อธิบายเรื่องในรัชกาลสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ
และพระมหินทราธิราช ในหนังสือพระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา” ความว่า
…ในพระราชพงศาวดารว่า
เมื่อเสร็จศึกคราวนั้นแล้วทำการพระศพสมเด็จพระสุริโยทัย แล้วสร้างวัดตรงที่ทำพระศพ
ให้ชื่อว่าวัดสบสวรรค์นี้ ฝ่ายหนังสือพงศาวดารเหนือว่า
เมื่อพระยาโคตระบองหนีพระยาแกรกไปคราวหนึ่ง แล้วกลับลงมาทิวงคตในแขวงเมืองอโยธยา
พระยาแกรกทราบจึงเอาศพมาทำฌาปนกิจ และสร้างวัดลงตรงที่ทำศพนั้นให้ชื่อว่า
วัดสบสวรรค์ เถียงกันอยู่ดั่งนี้ ข้าพเจ้าเคยไปตรวจท้องที่
และพิเคราะห์ความข้อนี้กับพระยาโบราณราชธานินทร์ด้วยกัน มีความเห็นจริงกันว่า
วัดสบสวรรค์ เป็นวัดเล็ก มีมาก่อนครั้งสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ แต่การทำพระศพพระสุริโยทัย
เห็นจะมีมูลเกี่ยวข้องกับวัดสบสวรรค์อยู่บ้าง
คือ เมื่อสมเด็จพระสุริโยทัยทิวงคตในกลางศึกแล้ว เชิญพระศพมาไว้ที่สวนหลวง ซึ่งเขตติดอยู่กับวัดสบสวรรค์
ครั้นเสร็จศึกจึงปลูกพระเมรุทำพระศพในสวนหลวงที่ติดต่อกับเขตวัดสบสวรรค์
แล้วสร้างวัดขึ้นที่ตรงนั้นอีกวัดหนึ่ง เรียกว่าวัดสวนหลวงสบสวรรค์…
๒.พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย